เลือกแบบเสื้อ
-
TK (Polyester หรือใยสังเคราะห์ / Polyester 100%)
TK Polyester
เป็น เส้นใยสังเคราะห์ผลิตจาก Polyester ผ้าใยสังเคราะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า TK มีส่วนผสมของ Polyester 100% เนื้อผ้าจะมีลักษณะมันผิวผ้าเป็นเงามากกว่า TC
แต่ข้อเสียก็คือเสื้อที่ทำจากผ้า TK ใส่แล้วจะร้อน
คุณสมบัติทั่วๆไป คือ ผ้าจะไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่ย้วย สีไม่ตก
เนื่องจากระบายอากาศไม่ดีผ้า TK จึงนิยมทอ ให้มีลักษณะเป็นรูเช่นกัน ทนทานหาได้ง่ายและวางขายตามท้องตลาด โดยทั่วไปแล้ว จะมีกรรมวิธีการทอเป็นแบบเนื้อ 17, 20 และ 34 เส้นคู่ ไม่ค่อย ซับเหงื่อ รีดง่าย ยับยาก ไม่หด ไม่ยืด ใช้งานไประยะหนึ่งจะเกิดการขึ้นขนเป็นเม็ดก้อนจึงเหมาะสำหรับทำเสื้อโปโล- ข้อดีของเนื้อผ้า TK ชนิดนี้ คือ ราคาค่อนข้างถูก ผ้า TK คงสภาพอยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วย เนื้อผ้าจะมีความมัน เสื้อยืดที่ทำจากเนื้อผ้าประเภทนี้จะมีราคาถูกที่สุด
- ข้อเสียคือใช้ไปนาน ๆ จะมีลักษณะ เป็นขน และสีหมองคล้ำ เนื้อผ้าจะระบายอากาศได้น้อยมาก ถ้าใส่อยู่ในที่แดดร้อน ๆ หรืออากาศอบอ้าว จะรู้สึกไม่สบายตัว โดยเฉพาะคนที่เหงื่อออกง่ายจะยิ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อ เนื่องจากเนื้อผ้าดูดซับเหงื่อได้น้อย และเมื่อใส่ไปนาน ๆ (ซักบ่อย ๆ) เสื้อผ้าจะขึ้นขุย
-
TC (Cotton ผสมPolyester / Cotton 35%+Poly 65%)
TC
(Toray tetoron+Cotton) เป็น เส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester เป็นเนื้อผ้าเส้นด้ายผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ % การผสมกันระหว่างเส้นใย Cotton 100% และเส้นใยสังเคราะห์ เปอร์เซ็นต์การผสมของผ้า TC ระหว่าง Polyester และ Cotton จะอยู่ที่อัตราส่วนของ Cotton 35% และ Polyester 65% เส้นด้ายที่นิยมนำมาทอผ้า TC คือเบอร์ 20 และ 32 และ 40 เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าประเภทนี้ ราคาอยู่ในระดับปานกลาง โดยขึ้นกับเบอร์ผ้า และ เส้นใยผ้า มีลักษณะนุ่มและบาง
ผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรู (ทอแบบ juti รูจะเป็นรูปรังผึ้ง) เนื่องจากผ้าประเภท TC และ TK มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้าชนิดนี้จึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศ และเพื่อความสบายในการสวมใส่
เนื้อผ้า TC จะมีลักษณะมัน (น้อยกว่า TK) ราคาของผ้าขึ้นอยู่กับสีที่เลือก เนื้อผ้าเส้นด้ายผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์
การสวมใส่จะสบายตัว และไม่ยับง่าย ความยืดหยุ่นปานกลาง ใช้ในการผลิตมากที่สุด
ปัจจุบันเนื้อผ้า TC มีการใช้ในการผลิตเสื้อโปโล หรือ เสื้อยืด หรือยูนิฟอร์มมากที่สุด เนื่องจาก ราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ กล่าวคือ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ผู้บริโภคเองสามารถรับได้ ในการผลิต ก็เช่นเดียวกัน คือ ลักษณะของเนื้อผ้าที่ใช้กันนิยมใช้ No.20 และ 34 เส้นคู่
-
CVC (Cotton 80% + Polyester 20%) , (Cotton 60% + Polyester 40%)
CVC
เป็น เส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester ผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติหรือผ้าฝ้าย และเส้นใยสังเคราะห์ มีคุณสมบัติในการระบายอากาศดีจากเส้นใยทั้งสอง สำหรับเนื้อผ้าผสม CVC จะอยู่ที่ Cotton 60-85% ต่อ Polyester 15-40% โดยคุณสมบัติจะแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น ผ้า CVC ที่มีส่วนผสม (Cotton60%+ Polyester 40%) ลักษณะโดยทั่วไปของเนื้อผ้ามี มีความยืดหยุ่นอยู่ในระดับปานกลาง การสวมใส่อยู่ทรง สบายตัว การผลิต นิยมใช้ No.20 และ 34 เส้นคู่
CVC ที่มีส่วนผสม (Cotton80%+ Polyester 20%)
ความยืดหยุ่นจะสูงมาก การระบายอากาศสูง เนื้อผ้าแน่น เนื้อผ้านุ่ม ใส่สบาย ดูดซับเหงื่อ ไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว ไม่ขึ้นขนเป็นเม็ดก้อน แต่จะฟูด้วยลักษณะของเส้นด้าย เหมาะสำหรับทำ เสื้อโปโล และ เสื้อยืด
จุดเด่นของ ผ้า CVC หรือผ้าเนื้อผสมคือเรื่องการควบคุมการยืด (หด )ย้วยจะทำได้ดีกว่า cotton 100 % แต่ข้อเสียที่ติดมาจากใยสังเคราะห์คือจะระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า cotton 100 % (ถึงแม้จะทอให้เส้นใยมีรูเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศแล้วก็ตาม) สวมใส่สบายราคาไม่แพงเท่า Cotton 100% ระบายอากาศได้ดีซับเหงื่อได้ดี ราคาของผ้าขึ้นอยู่กับสีที่เลือก การสวมใส่อยู่ทรง สบายตัวกับผ้า CVC ผ้า CVCไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว ไม่ขึ้นขนเป็นเม็ดก้อน เพราะมีการควบคุมการยืดของเนื้อผ้า ผ้าชนิดนี้มีส่วนผสมเหมือนเนื้อผ้า TC เพียงแค่มีส่วนของ Cotton มากกว่าส่วนผสมของ Polyester
วิธีทดสอบด้วยการเผา
- ติดไฟ ไม่มียาง ไหม้เหมือนกระดาษ เถ้ามีสีเทา นุ่ม แต่จะส่วนผสมของ poly เมื่อเผาแล้วจะมีลักษณะเป็นพลาสติกแข็งติดนิดหน่อย เปลวไฟที่ได้สีแดง เหลือบน้ำเงิน กลิ่นจะมีกลิ่นพลาสติกอยู่นิดหน่อย
ข้อดี
- จะคล้ายผ้า Cotton เพียงแค่จะหดย้วยน้อยกว่าเท่านั้น และราคาก็สูงกว่า TC เป็นผ้าที่ไม่ค่อยนิยมใช้งานกันมากนักในตลาดทั่วไป
- ระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า cotton 100 %
-
Cotton 100% (ผ้าฝ้าย)
ฝ้าย (Cotton)
คือเส้นใยเก่าแก่ชนิดหนึ่งซึ่งใช้ในการทอผ้ามาแต่สมัยโบราณ สิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่ามนุษย์มีการปลูกฝ้ายและปั่นฝ้ายเป็นเส้นด้ายมานาน แล้ว คือหลักฐานทางโบราณคดีซึ่งขุดพบในซากปรักหักพังอายุประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ที่แหล่งโบราณคดีโมฮันโจ ดาโร (Mohenjo daro) ซึ่งอยู่ในบริเวณแหล่งอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ ในเขตประเทศปากีสถานปัจจุบัน
ฝ้าย (Cotton)
เป็นใยเซลลูโลสได้จากดอกของฝ้าย ผ้าที่ผลิตจากฝ้ายพันธุ์ดีเส้นใยยาว ผิวของผ้าจะเรียบเนียน และทนทาน คุณภาพของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับพันธุ์ ความยาวและความเรียบของเส้นใย ใยฝ้ายเองไม่ใคร่แข็งแรงนัก แต่เมื่อนำมาทอเป็นผ้า จะได้ผ้าที่แข็งแรง ยิ่งทอเนื้อหนา-แน่นจะยิ่งแข็งแรง ทนทาน ดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้ายเนื้อบางถึงเนื้อหนาปานกลาง ใช้เป็นชุดสวมในฤดูร้อนจะรู้สึกเย็นสบาย คุณลักษณะเด่นของผ้าฝ้ายคือ
– ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก แต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง (Finish) ทำให้ผ้าไม่ใคร่ยับและรีดให้เรียบได้ง่ายขึ้น
– ซักได้ด้วยผงซักฟอก ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง
– แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา
ผ้าฝ้าย (Cotton)
ได้มาจากต้นฝ้ายในส่วนที่ห่อหุ้มเมล็ด หรือที่เรียกว่า ปุยฝ้าย จะมีลักษณะเป็นเส้นเล็ก
วิธีใช้งานจะนำฝ้ายมาปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วนำมาท่อเป็นผืนผ้า ฝ้ายมีคุณสมบัติเนื้อนุ่ม โปร่งสบาย ระบายความร้อนได้ดี เนื่องจากฝ้ายมีช่องระหว่างเส้นใย จึงเหมาะกับสภาพอากาศในฤดูร้อน และมีคุณสมบัติเมื่อเปียกจะตากแห้งได้เร็ว เป็นเส้นใยธรรมชาติ 100% ผลิตจากฝ้าย สวมใส่สบายอากาศได้ดีซับเหงื่อได้ดีเยี่ยม เนื้อผ้าจะมีลักษณะด้าน แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือมันจะยับง่าย เมื่อซักบ่อยๆ ก็จะย้วย
วิธีทดสอบด้วยการเผา
ติดไฟ ไม่มียาง ไหม้เหมือนกระดาษ เถ้ามีสีเทา นุ่ม เปลวไฟที่ได้จะเป็นสีแดง
ข้อดี
- ความยืดหยุ่นสูง สวยงามสวมใส่สบาย และเป็นเส้นใยธรรมชาติ เนื้อนุ่ม ไม่ร้อน ผ้านุ่มเนียนสวย
- ซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม
- ทนความร้อนและสามารถรีดที่อุณภูมิสูงๆ ได้
ข้อเสีย
- ผ้าจะหดตัว เมื่อผ่านการซักครั้งแรก
- ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก แต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง (Finish) ทำให้ผ้าไม่ใคร่ยับและรีดให้เรียบได้ง่ายขึ้น
- แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา
- เมื่อซักบ่อยๆจะย้วย และหด ยืด ไม่อยู่ทรง ยับง่าย ดูแลรักษาลำบาก สีซีดเก่าเร็ว
- มีราคาสูงกว่าผ้าชนิดอื่น ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพผ้าและร้านขาย
แบบเสื้อ
ส่วนประกอบตัวเสื้อ
แขน
-
แขนต่อ
แขนต่อ
-
แขนติดแถบ
แขนติดแถบ

เรทราคาเสื้อทั่วไป / จำนวนขั้นต่ำ
